5 วิธีจัดการกับการโดน Dislike แก้ปัญหาการโดน Dislike แบบมืออาชีพ!


หลายๆ คนที่หัดทำ YouTube, เป็น Influencer หน้าใหม่ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนดิสไลค์ (Dislike) โดนด่า Hate speech ในช่องทางอินเทอร์เนต ซึ่งเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และอาจทำให้เรารู้สึกแย่ หรือรู้สึกหมดกำลังใจในการทำงานต่อได้เช่นกัน

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปหาวิธีจัดการกับการโดน Dislike และดูว่ามืออาชีพเขาจัดการกับปัญหานี้กันอย่างไร เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือจะเป็นคนที่ทำมานานแล้ว ในทุกสังคมมีคนรักย่อมมีคนเกลียด การโดน Dislike เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่เราก็สามารถหาวิธีแก้ไขได้เช่นกัน

การจัดการกับการโดน Dislike แบบมืออาชีพ สามารถทำได้ด้วยการระมัดระวังอารมณ์ จิตใจของคุณไม่ให้คิดในแง่ลบกับตัวเองจนเกินไป มองให้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง หรืออาจจะปิดการคอมเมนต์และดิสไลค์ในวิดีโอที่เกิดปัญหานั้นไป แต่ที่สุดแล้วก็อาจจะไม่ต้องทำอะไร ปล่อยมันไป เอาเวลาไปพัฒนาคุณภาพของงานให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่า

ระมัดระวังสภาพอารมณ์ สภาพจิตใจของคุณ

สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดคือเมื่อโดน dislike หรือคอมเมนต์ในผลงานที่เป็นแง่ลบ คือต้องระมัดระวังสภาพอารมณ์และจิตใจ ไม่ให้คิดในแง่ลบกับตัวเองด้วย อย่าเก็บไปคิดเยอะ หนทางที่ช่วยได้ในบางครั้งก็คือการเขียนความรู้สึกของคุณออกมาในกระดาษเก็บไว้ ว่าเจอเรื่องเหล่านี้แล้ว รู้สึกอย่างไร เพื่อเป็นการระบายความรู้สึกออกไป (อย่าโพสต์ความรู้สึกออกไปในอินเทอร์เนต เพราะอาจไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น)

แล้วเมื่อรู้สึกผ่อนคลายแล้วค่อยมาคิดวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ควรแก้ไขหรือไม่ บางครั้งก็อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

พัฒนาคุณภาพของงานคุณขึ้นไปอีก

ในฐานะผู้สร้างงาน สร้างคอนเทนต์ สิ่งที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณมีคุณภาพได้ คือการตั้งใจทำงานต่อไป ทำงานให้ดีขึ้น หลายๆครั้ง การพัฒนาคุณภาพงานให้ดีขึ้นก็มาจากการทำงานอย่างตั้งใจ และทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อเจอคนเข้ามา Dislike ก็ใช้เป็นแรงผลักดันให้อยากทำงานให้คุณภาพดีขึ้น

ศึกษาข้อมูล นำคำวิจารณ์ในกรณีที่มีคอมเมนต์มาดูว่าเราควรปรับปรุงไหม บางครั้งก็อาจจะพบว่าคอมเมนต์เหล่านั้นก็อาจจะเป็นแค่เสียงนกเสียงกา ที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยก็ได้

ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยมันไป

เพราะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น บางครั้งก็อาจจะเป็นแค่เกรียนในอินเทอร์เนตที่มาป่วนคุณในการกดดิสไลค์ บางครั้งก็ไม่ได้มีสาเหตุอะไรมารองรับการกระทำเหล่านั้น การไม่สนใจ ไม่ใส่ใจอาจจะดีที่สุด เพราะยิ่งเราไปให้คุณค่ากับเรื่องของการ dislike ก็อาจจะเป็นการโฟกัสการทำงานที่ผิดจุด และมีแต่จะทำให้เราเสียใจเอง ปล่อยมันไปจะดีกว่า

พอถึงจุดนึงที่คุณทำงานไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีชื่อเสียง มากๆแล้ว การกดดิสไลค์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องธรรมดาแบบที่เรียกได้ว่า มีคนรักก็มีคนเกลียด

แต่ทั้งนี้หากการกดดิสไลค์มาจากสาเหตุที่คุณกำลังทำคอนเทนต์ที่เป็นอันตรงข้ามกับความเห็นของสังคมส่วนใหญ่ หรืออาจทำร้ายใครอยู่ อันนี้ก็ต้องหาวิธีจัดการด้วยการออกมาขอโทษด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ว่าจะปล่อยมันไปได้ทุกอย่าง เมื่อคุณทำผิดก็ต้องขอโทษ และรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

ซ่อนปุ่ม Dislike ด้วยตัวเอง

หากการเห็นตัวเลขในปุ่ม Dislike มีผลต่อความรู้สึกคุณมากๆ คุณก็สามารถปิดปุ่มนี้ไปเลยก็ได้โดยทำตามวิธีดังต่อไปนี้

วิธีซ่อนปุ่มดิสไลค์

  1. ไปที่เว็บไซต์ https://studio.youtube.com/
  2. เลือกเมนู Content ด้านซ้ายมือ
  3. เลือกวิดีโอ แล้วกด Detail รูปดินสอด้านขวามือ
  4. เลื่อนลงมาจนถึงเมนู Comment & Ratings
  5. ตรงนี้จะสามารถปรับได้ว่าจะจัดการกับคอมเมนต์อย่างไร หากจะซ่อนปุ่ม Dislike ให้เลือก Disable comment ก็จะเป็นการปิดทั้งการคอมเมนต์และซ่อนปุ่ม Dislike ไปด้วย

ให้น้ำหนักกับคุณค่าของตัวเอง

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม การเห็นคุณค่าของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ไปได้ ซึ่งมันจะง่ายกว่าการที่ต้องไปแก้ไขให้ทุกคนมาเห็นชอบ หรือเปลี่ยนคนที่เกลียดชังคุณ ให้มารักคุณ หรือไปแก้แค้นอะไรพวกเขา เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรให้คุณค่าเขาเลย

ตั้งใจพัฒนาผลงานของคุณให้ดี และให้คุณค่ากับคนที่ซัพพอร์ทผลงานคุณด้วยความรักและความเห็นคุณค่าในตัวคุณจะดีกว่า

แม้การโดนคอมเมนต์ในทางลบและ Dislike อาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถาวร และในปัจจุบันทาง YouTube เองก็เริ่มมีการทดสอบซ่อนปุ่ม Dislike บ้างแล้วเพื่อช่วยไม่ให้ YouTuber รู้สึกแย่จนเกินไปเมื่อต้องเห็นอะไรแบบนี้ เนื่องจากว่าสังคมอินเทอร์เนตเองก็เป็นสังคมที่ร้อยพ่อพันแม่มากๆ รวมไปถึงเราไม่ค่อยเห็นหน้าตาของคนที่เข้ามาคอมเมนต์ด้วย การไม่เอาใจไปใส่กับเรื่องพวกนี้เลยอาจเป็นวิธีจัดการที่ช่วยคุณได้ดีที่สุดนะ

IncomeSpire.com

IncomeSpire.com คือการรวมตัวของกลุ่มคนที่เชื่อว่า ความมั่งคั่ง สามารถสร้างได้จริง โดยชื่อเว็บไซต์ของเรามาจากคำว่า Income ซึ่งแปลว่า รายรับหรือเงินได้ ผสมกับคำว่า Inspire ที่แปลว่า แรงบันดาลใจ เมื่อรวมกันแล้วจึงทำให้เป็นคำที่มีความหมายที่พวกเราคิดเอาเองว่า "สร้างแรงบันดาลใจให้การสร้างรายได้"

บทความก่อนหน้า