ตลาดบ้านและที่อยู่อาศัยในเมืองไทยนั้น ปัจจุบันมีจำนวนบ้านมากกว่าคนอยู่อาศัย นั่นหมายความว่าคนซื้อบ้านมีตัวเลือกมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต แถมราคาก็อยู่ในระดับที่จับต้องได้โดยเฉพาะบ้านมือสอง สำหรับคนที่เพิ่งซื้อบ้านมาหมาด ๆ บางคนอาจมีเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้อีกต่อไป หรืออาจไปพบตัวเลือกใหม่ที่น่าเป็นเจ้าของมากกว่า คำถามก็คือเมื่อซื้อบ้านไม่ถึงปีขายได้ไหม และถ้าหากว่าได้จะมีวิธีการอย่างไร เราจะพาท่านไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราขายบ้านทั้ง ๆ ที่เพิ่งซื้อมาไม่นาน
โดยทั่วไปธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับคนอยากมีบ้านเพราะหวังจะกินดอกเบี้ยไปนาน ๆ แต่ถ้าหากคุณอยากขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดก็สามารถทำได้แน่นอน เพียงแต่จะมีเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มเติมที่คุณต้องนำไปพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่คุ้มดังนี้
ขายก่อนย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน 1 ปี เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ในการซื้อขายบ้านหากคุณซื้อบ้านไว้ยังไม่ถึง 5 ปีหรือมีชื่อในทะเบียนบ้านยังไม่ครบหนึ่งปี เวลาขายออกไปคุณจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะเท่ากับ 3.3% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ แต่ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขนี้ก็จะเสียภาษีอากรแทนที่ 0.5% เพราะอย่างนี้ถ้าคุณขายเร็วเกินไปก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย ถ้าบ้านราคา 2 ล้านบาท ภาษีธุรกิจเฉพาะก็จะตกอยู่ที่ 66,000 บาท ก็ถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน
ค่าปรับในกรณีที่รีไฟแนนซ์
ในกรณีที่คุณทำการรีไฟแนนซ์ก่อนเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา (เช่น 3 ปี) ธนาคารอาจจะคิดค่าปรับเพราะคุณจ่ายชำระหนี้เร็วเกินกว่ากำหนดทำให้ธนาคารสูญเสียรายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละสัญญา เพราะแต่ละเจ้าให้เงื่อนไขไม่เหมือนกัน แต่โดยมากการปิดด้วยเงินสดจะไม่เสียค่าปรับ แต่การรีไฟแนนซ์จะเสียค่าปรับประมาณ 3% ทางที่ดีนอกจากจะต้องอ่านสัญญาให้เข้าใจแล้ว คุณควรสอบถามกับธนาคารโดยตรงเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและให้เข้าใจตรงกัน
นอกจากสองอย่างนี้แล้ว ก็จะมีค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องตกลงกับผู้ซื้อต่อไปว่าใครจะเป็นคนออก
แล้วจะขายอย่างไรให้ได้กำไร? 5 วิธีที่คุณนำไปใช้ได้จริง
โดยปกติ บ้านมือสองจะขายออกยากกว่าบ้านมือหนึ่ง เพราะธนาคารปล่อยสินเชื่อบ้านมือสองน้อยกว่า คุณสามารถนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อขายบ้านให้ได้ราคาดีที่สุด
1.หวังกำไรได้ แต่ต้องไม่โลภเกินไป ไม่งั้นก็ถือยาว
ซื้อบ้านไม่ถึงปีขายได้ไหม? มั่นใจได้เลยว่าได้แน่ แต่บ้านจะขายได้หรือไม่ได้หลัก ๆ เลยอยู่ที่ราคา หากราคาสูงกว่าบ้านลักษณะเดียวกันในละแวกนั้นย่อมขายยาก คุณหวังกำไรได้บ้างแต่ก็ไม่ควรมากเกินไป เดี๋ยวนี้ลูกค้ามีตัวเลือกเยอะ ต้องอย่าลืมว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่ขาย ขายได้ไวจะได้นำเงินไปทำอย่างอื่นต่อไปที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า
2.เพิ่มมูลค่าบ้านด้วยการตกแต่งบ้านก่อนขาย
หากคุณอยากให้บ้านโดดเด่น อัพราคาได้ การตกแต่งภายในและภายนอกเป็นสิ่งที่แนะนำให้ทำ นี่คือวิธีการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ดูแพงขึ้น ลูกค้าบางคนอาจไม่เก่งด้านการตกแต่ง เมื่อเห็นบ้านคุณพร้อมอยู่อาจให้ความสนใจทันทีก็ได้นะ
3.อยากขายบ้านได้ ต้องมีการนำเสนอที่ดี
เวลาเรานำรูปภาพบ้านลงประกาศ จะต้องทำให้ดีที่สุด จัดบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สะอาดเรียบร้อยทั้งภายนอกและภายใน คุณอาจลงทุนด้วยการหาช่างภาพเพื่อถ่ายรูปให้กับคุณ หรือใช้บริการนายหน้า มืออาชีพเหล่านี้รู้ว่าจะต้องจัดบ้านอย่างไรให้ขายได้
4.ลงประกาศหลาย ๆ ที่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
นอกจากติดป้ายประกาศหน้าบ้าน บอร์ดหมู่บ้านแล้ว คุณต้องโพสต์รูปและข้อมูลบ้านลงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันด้วย เมื่อมีคนเข้ามาดูมาก โอกาสที่จะมีคนสนใจซื้อก็จะมากตามเช่นกัน ถ้าเดือนหนึ่ง ๆ มีคนสนใจแค่คนหรือสองคน คงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะขายได้
5.ถ้านานแล้วยังขายไม่ได้จริง ๆ อาจต้องลดราคา
หากคุณทำทุกอย่างแล้ว รอก็แล้ว โฆษณาก็แล้ว บ้านยังขายไม่ได้ นั่นอาจหมายความว่าบ้านของคุณยังแพงเกินไป คุณอาจพิจารณาลดราคาลงบ้างหากคุณรีบขาย อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาดในขณะนั้นด้วย
ได้คำตอบกันไปแล้วว่าซื้อบ้านไม่ถึงปีขายได้ไหม ถึงคุณจะตัดสินใจขาย แต่อย่าลืมว่าการขายบ้านมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามมา อาจส่งผลต่อราคาที่ตั้งไว้ไม่มากก็น้อย แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น เชื่อเถอะว่าถ้าบ้านของคุณดีจริงและมีราคาไม่สูงเกินไป จะต้องมีคนอยากได้ วันหนึ่งก็ต้องขายออกในที่สุด