“สร้างคอนเทนต์กันหน่อย” คำพูดติดปากของใครหลายคนในยุคนี้ ที่มักใช้เพื่อบอกเล่าเวลาที่ใครสักคนนึงกำลังจะทำการโพสต์รูปภาพ โพสต์วิดีโอ หรือข้อความต่างๆ บนโซเชียลมีเดียของตัวเอง
ไหนๆก็เป็นคำพูดติดปากกันขนาดนี้ รู้หรือไม่ว่าจริงๆ คอนเทนต์คืออะไร และคุณเองสามารถหารายได้จากคอนเทนต์ได้ด้วยนะ!
เนื้อหา
คอนเทนต์ คืออะไร
คอนเทนต์ (Content) คือสารของการเล่าเรื่อง ที่ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดให้คนที่เสพเนื้อหากระทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คอนเทนต์ไม่ได้มีรูปแบบจำกัดตายตัว เป็นได้ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือเสียงก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการในการนำเสนอ เนื้อหาของเจ้าของคอนเทนต์
ทำไมต้องทำ คอนเทนต์
มีคำกล่าวเสมอว่า Content is King เพราะหากคุณมีคอนเทนต์ที่ดีแล้ว คุณจะสามารถดึงดูดสิ่งต่างๆ เข้ามาได้เอง ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นลูกค้า รายได้ ชื่อเสียง หรือสิ่งใดก็ตามแต่ สามารถบรรลุเป้าหมายได้ทั้งนั้น ถ้าคุณมีคอนเทนต์ที่ดี
นั่นจึงเป็นที่มาของวิชาการตลาดสมัยใหม่ ในชื่อ Content Marketing ที่เริ่มออกแบบมาเพื่อสอนคนทำการตลาดผ่านการทำคอนเทนต์บนสิ่งต่างๆ ให้ตอบรับกับยุคสมัยที่ คอนเทนต์เริ่มมีบทบาทมากกว่าเดิม เพราะเราอยู่ในยุคของโลกออนไลน์ ที่มีคอนเทนต์ให้เสพต่างๆ มากมายทั้งในเว็บไซต์ และ Social Media ต่างๆ เรียกได้ว่า ทุกที่ ทุกจุดบนโลกออนไลน์ ต่างก็คือคอนเทนต์ที่คุณสามารถเสพได้
ยิ่งคอนเทนต์เยอะแบบนี้ คุณยิ่งต้องสร้างความแตกต่าง รวมไปถึงให้คุณค่ากับการทำคอนเทนต์มากขึ้น ใครที่ทำแบบเดิมๆ ก็อาจจะไม่สามารถดึงดูดใจคนได้แล้ว
รูปแบบของคอนเทนต์ยอดนิยม
คอนเทนต์มีรูปแบบไหนแล้วบ้างในปัจจุบัน แล้วแบบไหนเป็นที่นิยมบ้าง เราลองแบ่งตามชนิดของสื่อได้ดังต่อไปนี้
ตัวหนังสือ
สำหรับตัวหนังสือยังคงเป็นคอนเทนต์สุดแสนคลาสสิคที่ยังดึงดูดใจคนได้อยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าพอเป็นออนไลน์ การเป็นตัวหนังสืออย่างเดียวอาจจะไม่เหมาะสำหรับคอนเทนต์ยาวๆ อาจจะเป็นการตั้งสเตตัสสั้นๆ หรือข้อความ Notification ก็จะเป็นที่ที่ คอนเทนต์ประเภทตัวหนังสือทำงานได้ดี
ตัวอย่างคอนเทนต์จากตัวหนังสือ
- การตั้งสเตตัส
- ข้อความใน Notification
- คำคม
- พาดหัวข่าว
- บทความรีวิว
รูปภาพ
ภาพหนึ่งภาพแทนข้อความหนึ่งพันคำ เป็นคำกล่าวที่ดูจะจริงไม่น้อย รูปภาพเป็นคอนเทนต์ที่คนเริ่มใช้เวลาในการเสพเยอะขึ้น โดยในมุมของการทำคอนเทนต์ รูปภาพถือเป็นฮีโร่ที่ช่วยให้คอนเทนต์ทำงานได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียว และมีวิธีการทำคอนเทนต์ผ่านรูปภาพมากมาย
ตัวอย่างคอนเทนต์จากรูปภาพ
- โพสต์รูปใน Instagram
- โพสต์รูปใน Facebook
- Infographic นำเสนอข้อมูล
- ภาพถ่ายต่างๆ
- ภาพ Meme ตลกๆ
- ภาพในบทความรีวิว
วิดีโอ
นับเป็นสื่อสมัยใหม่ที่มาแรง และทำกันได้ง่ายขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้มือถือเครื่องเดียวก็ทำคลิปวิดีโอได้แล้ว (ในระดับหนึ่ง) รวมไปถึงเป็นสื่อที่ใช้ประสาทสัมผัสของมนุษย์หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นดวงตาและหูที่ต้องทำงานในการดูสื่อวิดีโอพร้อมๆ กัน จึงทำให้ได้รับความนิยมมาก
โดยเว็บไซต์ที่เป็นอันดับสองที่คนเข้ามากที่สุดของโลกก็คือเว็บอย่าง YouTube.com ซึ่งก็บอกเราได้แล้วว่าสื่อวิดีโอได้รับความนิยมแค่ไหน และวิดีโอก็เป็นสื่อที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้หลายทาง โดยหากคุณอยากรู้ว่ายูทูปเบอร์ทำรายได้ได้แค่ไหน ต้องอ่านบทความนี้
ตัวอย่างคอนเทนต์จากวิดีโอ
- วิดีโอต่างๆ ใน YouTube
- วิดีโอต่างๆ ใน Facebook
- วิดีโอต่างๆ ใน Instagram
- ภาพยนตร์ใน Netflix
เสียง
เสียงก็เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ในสมัยก่อนอาจจะเป็นการฟังวิทยุ แต่ในยุคนี้รูปแบบของเสียงก็ถูกนำมาใช้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีทั้ง Podcast หรืออย่างล่าสุด คือ Clubhouse ที่เป็นโซเชียลมีเดียให้คนได้พูดคุยกกันผ่านเสียง
ตัวอย่างคอนเทนต์จากเสียง
- Podcast
- วิทยุ
- เพลง
- Clubhouse
สื่อผสม
แน่นอนว่าคอนเทนต์เดี่ยวๆ อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ การทำสื่อแบบผสมจึงเป็นวิธีที่ทำให้คอนเทนต์ดึงดูดและน่าสนใจได้มากขึ้น
ตัวอย่างคอนเทนต์แบบสื่อผสม
- เว็บไซต์ต่างๆ
- งานนิทรรศการ
ทำคอนเทนต์ที่ไหนดี?
ในมุมมองของนักการตลาด การทำคอนเทนต์ก็ควรทำในที่ๆ มีกลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่บน Platform นั้นๆ โดยสำหรับประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้น Social Media ต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็น
เหมาะสำหรับใช้ทำคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของคุณให้กับกลุ่มเป้าหมาย Facebook ยังคงทำงานได้ดีบนคอนเทนต์แบบรูปภาพ รวมไปถึงการโฆษณาใน Facebook ค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจากเป็นการโฆษณาตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
YouTube
เพราะคนเราชอบดูคลิปวิดีโอเป็นหลัก ไม่ว่าจะหาข้อมูลอะไรก็ตาม เดี๋ยวนี้คนก็เริ่มค้นหาสิ่งต่างๆใน YouTube มากพอๆกับการใช้ Google แล้ว หากคุณสามารถทำคลิปวิดีโอ สอนใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับของที่คุณจะขายไว้ใน YouTube ก็มีโอกาสจะขายของได้ง่าย แบบไม่ต้องใช้เวลานาน
Instagram เองก็เป็นแหล่งโปรโมทสินค้า แหล่งทำคอนเทนต์ชั้นดี สำหรับคนที่สินค้ามีความต้องใช้รูปภาพในการดึงดูดเป็นหลัก และ Instagram ก็มีฐานผู้ใช้ทั้งชายและหญิงที่ฐานะค่อนข้างโอเคเป็นจำนวนมาก จึงเป็นตลาดที่คุณควรไปสร้างคอนเทนต์เอาไว้เช่นกัน
หรือหากในมุมของการเป็น Influencer การใช้ Instagram จะเป็นการนำเสนอไลฟ์สไตล์ของคุณให้กับผู้ที่ติดตามได้เห็น และมีโอกาสสร้างรายได้จากการเป็น Influencer ได้อีกด้วย
LINE
LINE เป็นช่องทางแชทติดต่อ ที่อาจจะเหมาะสำหรับการเป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าเพื่อซัพพอร์ท หรือแจ้งโปรโมชั่นให้เฉพาะลูกค้าเก่าเท่านั้น
Clubhouse
ในตอนนี้ Clubhouse อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับแบรนด์ในการโปรโมต แต่ในมุมของการเป็น Influencer หรือในนามบุคคล Clubhouse อาจจะช่วยให้คุณสามารถมีชื่อเสียงได้ หากคุณเป็นคนที่เก่งในด้านของการพูด และมีความเป็น Expert ในด้านที่เข้าไปพูดจริงๆ
โดย Clubhouse ก็มีตั้งแต่ห้องสาระทางธุรกิจ ห้องเกี่ยวกับการเมือง หรือห้องที่เน้นเล่าเรื่องตลก เรื่องผีก็มี ก็เป็นโอกาสสำหรับคนที่พูดเก่งให้สามารถเติบโตได้ผ่านช่องทางนี้
การจะทำคอนเทนต์บน Google ได้ก็ต้องมีเว็บไซต์เสียก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ทำยากขนาดนั้นในยุคนี้ ซึ่งคอนเทนต์บน Google ข้อดีสุดๆ เลยคือ กลุ่มลูกค้ามีความต้องการในเรื่องนั้นสูงๆ หรือมีปัญหาต่างๆ จึงได้ทำการค้นหาบน Google แล้วถ้าหากเรามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับปัญหานั้นๆ โอกาสในการขายได้ก็จะมีสูงกว่า
เขาเล่าอะไรกันในคอนเทนต์บ้าง?
การจะทำคอนเทนต์นอกจากจะต้องมีช่องทางเล่าเรื่องแล้ว ก็ต้องมีเรื่องที่จะเล่าลงไปในคอนเทนต์ด้วย ถึงจะเป็นคอนเทนต์ที่สมบูรณ์ เรามีหลักการตลาดง่ายๆ ที่ตอบโจทย์ กระบวนการตัดสินใจของผู้บริโภค (Customer Journey) มาให้ดูกัน
Awareness
อะแวเนส คือกระบวนการรับรู้ของผู้บริโภค เป็นกระบวนการแรกสุดก่อนที่จะไปสู่การตัดสินใจต่างๆ คอนเทนต์ที่เล่ากันบนอะแวเนสส่วนใหญ่จึงจะเป็นคอนเทนต์ที่ย่อยง่ายๆ แต่ขอให้จำแบรนด์หรือจำสินค้า จำอะไรเกี่ยวกับเราได้ก็พอ เพราะหน้าที่ของการทำคอนเทนต์เพื่ออะแวเนส คือการทำให้จำได้ รับรู้ได้ว่าเราคือใคร ทำอะไร
Consideration
กระบวนการต่อมาคือ คอนซิเดอเรชั่น Consideration หรือกระบวนการพิจารณา ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มนี้คือกลุ่มที่รู้จักเราบ้างแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงเวลาพิจารณาว่าจะเลือกเรา หรือเลือกใครดี สำหรับการใช้บริการผลิตภัณฑ์
ซึ่งคอนเทนต์ที่เขาทำกันในช่วง Consideration ก็คือคอนเทนต์ที่สามารถโน้มน้าวใจได้ หรือบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าผู้อื่นอย่างไร อาจจะออกมาในรูปแบบของการรีวิวผลิตภัณฑ์ การใช้งานให้เห็น หรือการให้ข้อมูลสินค้า เพื่อช่วยในการพิจารณาได้ดีขึ้น
Decision
และสเตจสุดท้ายก็คือการตัดสินใจ (Decision) หลายคนอาจจะมองว่าก็ตัดสินใจแล้ว ทำไมต้องทำคอนเทนต์อีก ก็ต้องบอกว่าในความเป็นจริงลูกค้าจะยังไม่เป็นลูกค้าเราจนกว่าจะซื้อ ต่อให้ตัดสินใจแล้วบางทีก็ใช้เวลานานกว่าจะซื้อ ซึ่งช่วงเวลาเหล่านั้นอาจนานพอที่คู่แข่งจะมาแย่งลูกค้าไปจากเราได้
หากเรามีการทำคอนเทนต์ในช่วงตัดสินใจที่ดี ก็จะช่วยโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าของเราได้สำเร็จ โดยสิ่งที่จะช่วยได้ก็มี โปรโมชั่น, ดีลพิเศษ , ตัวจำกัดเวลา, ข้อเสนอพิเศษต่างๆ ที่ใช้ช่วยดึงดูดใจ
การสร้างรายได้จาก คอนเทนต์
มีหลากหลายวิธีในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ อาชีพอย่างนักเขียนบทความ Blogger , Influencer หรือยูทูปเบอร์ ก็สามารถมองเป็นกลุ่มอาชีพ Content Creator ได้ ซึ่งทำรายได้จากการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมานั่นเอง โดยรับรายได้จากการที่มีโฆษณา, ขายสินค้าของตัวเอง หรือโปรโมทสินค้าให้ผู้อื่น ก็สามารถทำรายได้ได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ถือเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจไม่น้อย หรือจะทำจริงจังจนเป็นอาชีพหลักก็ได้
เห็นไหมว่าคอนเทนต์ สำคัญกับโลกยุคนี้อย่างไร ต่อให้คุณไม่ได้ทำกิจการซื้อขายอะไร ไม่ได้ขายของออนไลน์ แต่ตัวคุณเองก็นับว่าเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแค่คนธรรมดาที่โพสเฟสบุ๊ก เป็น YouTuber หรือ Influencer การหัดสร้างคอนเทนต์เอาไว้ จะช่วยสร้างรายได้ให้คุณได้ในอนาคตนะ!