วิธีหาคีย์เวิร์ดทำเงิน สำหรับคนทำเว็บภาษาไทย และ YouTube


หากคุณคิดจะเริ่มทำเว็บไซต์และหวังว่า จะมีคนค้นหาเข้ามาผ่าน Google สิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือการ หาคีย์เวิร์ด ในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับ คีย์เวิร์ด ว่าคืออะไร วิธีหาคีย์เวิร์ดทำเงิน คีย์เวิร์ดที่ไม่มีการแข่งขันสูง เพื่อทำให้คุณสามารถทำอันดับใน Google ได้

เนื้อหา

คีย์เวิร์ด คืออะไร

Keyword (คีย์เวิร์ด) คือ คำค้นหา คำที่เราใช้สืบค้นข้อมูลบนออนไลน์ ในเว็บไซต์โดยเฉพาะ Search Engine อย่าง Google, Bing, YouTube และในยุคนี้การค้นหาข้อมูลบนออนไลน์ก็เปลี่ยนไปมาก โดยมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง Voice Search หรือการค้นหาด้วยเสียง เข้ามา ซึ่งจะทำให้เราหาข้อมูลได้สะดวกขึ้น ซึ่งสิ่งที่เรา input เข้าไปในระบบก็ยังเป็นการใช้คำ หรือวลี เพื่อค้นหา ดังนั้นในมุมมองของคนทำธุรกิจบนออนไลน์ การคิดค้นคีย์เวิร์ด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จึงต้องเลือกใช้คีย์เวิร์ดอย่างสมเหตุสมผล และตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ

อันดับของกูเกิ้ลที่ส่งผลต่อจำนวนคนเข้าเว็บไซต์
อันดับของกูเกิ้ลที่ส่งผลต่อจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ ศึกษาโดย Advance Web Ranking

โดยจากผลการศึกษาหลายๆ ที่ เราพบว่าหากเราไม่สามารถทำอันดับให้อยู่ใน Top 3 ของผลการค้นหาบน Google ได้ ก็แทบจะหมดโอกาสที่เว็บไซต์เราจะมีคนเข้าผ่านเว็บไซต์นี้เลยทีเดียว ลองดูจากพฤติกรรมของคุณเองก็ได้ครับ คงมีไม่กี่ครั้งที่เราจะกดค้นหาไปจนถึง หน้า 2 – 3 (ยกเว้นหาเว็บตัวเอง TT) เปรียบเทียบเชิงตัวเลขกันได้จากในกราฟ หากคีย์เวิร์ดที่เราทำคือ “ขายบ้าน” มีจำนวนคนค้นหาประมาณ 14,800 ครั้งต่อเดือน โดยหากเราอยู่ในอันดับที่ 1 อัตราคลิก CTR จะอยู่ที่ 33% เราจะได้ทราฟฟิคเข้าเว็บจากคีย์นี้ประมาณ 4,884 ครั้ง แต่หากเราอยู่ในอันดับที่ 5 เราจะมีคนเข้าเว็บเพียง 740 หรือหากตกไปที่หน้าสอง ต่อให้เป็นอันดับแรกของหน้าสอง เราก็จะมีคนเข้าเว็บจากคำค้นหานี้เพียง 500 ครั้งเท่านั้นครับ

และสิ่งที่จะทำให้เราเอาชนะคู่แข่งได้บนสังเวียนของ Google นี้ ก็คือการทำเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ และตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ในส่วนการจัดอันดับของ Google นั้น ด้วย Algorithm ต่างๆ ต้องบอกว่าเป็น Mystery เรื่องพิศวงที่ไม่มีใครรู้เลยว่าคิดยังไง ทำได้เพียงคาดเดาจากการทดลองทำ และฟังสัมภาษณ์จากที่ต่างๆ  ซึ่งไว้เรามีโอกาสจะมาเขียนถึงเรื่องนี้ครับ

อย่างไรก็ตาม การหาคีย์เวิร์ดทำเงิน หรือ คีย์เวิร์ดที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญกับการทำเว็บไซต์คุณภาพ มาลองดูกันหน่อยว่า

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คีย์เวิร์ดนั้นเป็นคีย์เวิร์ดที่แข็งแกร่ง

คีย์เวิร์ดที่แข็งแกร่งในมุมมองของเราคือ คีย์เวิร์ดที่ทำเงินได้ หรือนำไปสู่การทำธุรกิจบางอย่างได้ โดยทั้งหมดนี้มาจาก

User Intent ความตั้งใจของผู้ค้นหาข้อมูล

ก่อนที่เราจะทำการค้นหาอะไรบางอย่างใน Google เราคงมีเหตุผลกว่าร้อยแปดประการที่จะค้นหา แต่แน่นอนว่าพฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจนะครับ คือผ่านการคิดมาแล้ว ในมุมมองของการตลาด สิ่งที่มีการคิดมาแล้ว แปลว่ามันคือความต้องการของบุคคลนั้น ซึ่งจะดีกว่าการใช้สื่อประเภทแสดงโฆษณาอย่าง Display หรือโฆษณา TVC ต่างๆ เพราะสื่อเหล่านี้ต้องสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ใช้งานก่อนนั่นเอง โดยแบ่งความตั้งใจออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

หาข้อมูลทั่วไป

โดยทั่วไป หรือกว่า 70% ของการค้นหา คือการหาข้อมูลทั่วๆ ไป เพื่อที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เพิ่มเติม และบางครั้งเราอาจจะป้อนข้อมูลลงไปด้วยการตั้งชุดคำถามเช่น วิธีทำ …. , ทำไม …. , …. คืออะไร โดยการค้นหาประเภทนี้มักจะยังไม่ใช่กลุ่มคีย์เวิร์ดที่เราจะเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นการทำเงินได้ง่าย แต่ว่าหากเว็บไซต์เราให้ข้อมูลกับ User ที่เข้ามาด้วยวิธีนี้ได้ตรงประเด็น ก็จะทำให้เวลาที่เขาค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้อง เขาจะนึกถึงเว็บไซต์เราเป็นที่แรกๆ และอาจจะมีบางส่วนที่นำไปสู่การทำธุรกิจได้

ค้นหาธุรกิจ สถานที่ การนำทาง

รู้หรือไม่ว่า ต่อให้คุณเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Apple, Nike, Uniqlo มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองที่สุดจะน่าเชื่อถือ แต่คนก็ยังค้นหาเว็บไซต์คุณผ่านทาง Google อยู่ดี เหตุผลนึงเพราะว่า Google เขาอยู่มานานในอินเทอร์เนต และได้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ไว้แล้ว หรืออีกนัยนึงคือวางแผนให้เกิดพฤติกรรมนี้ไว้อยู่แล้ว รวมไปถึงการพิมพ์ url เว็บไซต์ก็ยังเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะพิมพ์ www .com เพราะพิมพ์ผิดก็เข้าไม่ได้ พิมพ์ใน Google ดีกว่า เขาช่วย Correct ให้ และพาไปยังเว็บไซต์ที่ถูก

ตัวอย่างวิดีโอโฆษณาจากทาง Google เอง ที่พยายามแนะนำให้เราค้นหาผ่าน Google ก็เป็นกลยุทธ์ในการเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นกัน

การทำธุรกรรม ซื้อสินค้า หรือ บริการ บนออนไลน์

นี่แหละครับ กลุ่มคีย์เวิร์ดที่สามารถทำเงินได้โดยตรง เพราะเป็นกลุ่มคำที่ทำให้เกิดธุรกรรมได้จริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชื่อโปรดักสินค้าตรงๆ เลย ชื่อรุ่น หรือคำที่มีคำเชื่อมดังต่อไปนี้ผสมอยู่ใน keyword : ซื้อ ,ขาย ,ราคาถูก ,ที่ไหนดี ฯลฯ เห็นไหมครับว่าถ้าเราค้นหาสิ่งเหล่านี้แปลว่าเรากำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อระยะสุดท้ายแล้ว

ทั้งนี้เราก็ต้องบอกไว้เลยว่า ทั้งสามกลุ่มนี้ก็ทำเงินได้ และปัจจุบันก็มีการแข่งขันสูงทั้งนั้น เพียงแต่ความยากง่ายก็เป็นไปตามลำดับนั่นเอง

คำค้นหาเบื้องต้น Seeding VS คำค้นหาแบบยาวๆ Long Tail

อีกหนึ่งวิธีในการมองหาคีย์เวิร์ดที่ก็เป็นที่นิยม และถูกอธิบายกันอยู่บ่อยๆ จะเป็นเรื่องของความยาวของประโยคค้นหาครับ

เปรียบเทียบคำค้นหาตามความยาวของประโยค
เปรียบเทียบคำค้นหาตามความยาวของประโยค รูปจาก SEOPressor

จากกราฟด้านบนจะเห็นการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มคีย์เวิร์ดสั้นๆ กับ Long tail keyword ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า คีย์เวิร์ดสั้นๆ (Seeding Keywords, Head Term, Short Keyword หรือแล้วแต่จะเรียกในภาษาอังกฤษ) จะมีคนค้นหามากมายเลยต่อเดือน แต่มี Conversion Rate ต่ำ ส่วนใหญ่คนที่ค้นหาเรื่องนี้มักจะเป็นการหาเพื่อหาข้อมูลทั่วไป หรือเป็นจุดตั้งต้นในการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ จึงเป็นการยากที่เราจะทำให้คำนี้เกิดการซื้อขายได้ และความยากก็คือจะมีคนแข่งกันในคีย์เวิร์ดนี้เยอะมากๆ เพื่อแย่งอันดับการค้นหา ซึ่งหากเว็บไซต์คุณไม่ได้มีอายุมาอย่างยาวนานก็ต้องบอกเลยว่า หมดสิทธิ์สู้

คำแนะนำ: คุณควรใช้ คีย์เวิร์ดสั้น ๆ มาทำเป็น Niche ของเว็บไซต์คุณไปเลย เช่น ต้นกระบองเพชร ตัวอย่างเว็บไซต์ หรือใช้เพื่อเป็นหมวดหมู่ใดหมวดหมู่นึงของเว็บ

ส่วนอีกกลุ่มนึงคือ Long Tail Keywords, Low Hanging Fruit กลุ่มคีย์เวิร์ดยาวๆ เป็นวลี ซึ่งมันบ่งบอกแล้วครับว่าผู้ค้นหามี Intent เกี่ยวกับเรื่องนั้นสูง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คำค้นหาจึงน้อย แต่ว่ามันเป็นคีย์เวิร์ดคุณภาพ และก่อให้เกิดการซื้อขายได้ง่าย รวมไปถึงโอกาสที่จะเจอคู่แข่งมาเล่นคำนี้ตรงๆก็น้อยมาก รวมไปถึงกลุ่ม Keyword นี้เกิดขึ้นใหม่ๆได้ทุกวัน เราไม่อาจหยุดความสร้างสรรค์ในการค้นหาของมนุษย์ได้เลยครับ

คำแนะนำ: หากคุณรู้สึกว่าบทความของเรายังอธิบายได้ไม่ดีพอ คุณสามารถใช้ Keywords ภาษาอังกฤษที่เราแทรกไว้ในบทความ เพื่อค้นหาคำอธิบายเพิ่มเติมได้บน Google อีกด้วย

ทำยังไงให้เพิ่มจำนวนการค้นหาคำบน Google ได้?

คำถามบ้าๆ นี้เกิดขึ้นในหัวเราระหว่างเขียนบทความนี้ และคิดว่าคงมีคนอยากจะรู้เหมือนกัน เลยจะบอกว่า คุณสามารถทำให้คนค้นหาเรื่องนั้นเยอะขึ้นได้ หากสิ่งนั้นเป็น Trend หรือ Event ที่เกิดขึ้นในโลกจริงๆ นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ Apple เปิดตัวสินค้าใหม่ การค้นหาจะเพิ่มสูงขึ้นมากในเดือนนั้น มากๆเลย หรือเป็นเรื่องที่เป็นประเด็นในสังคม

ดังนั้น หากอยากให้ผลการค้นหาเกี่ยวกับเว็บไซต์คุณเพิ่มขึ้น จงทำแบรนด์ และโปรโมทมันบนโลกจริงๆ ให้มาก ก่อให้เกิดกระแส เพื่อที่จะกระตุ้นให้เกิดการค้นหาเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

วิธีหา คีย์เวิร์ด ทำเงิน มาเขียนบทความ

เอาละครับ ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาหาคีย์เวิร์ดทำเงิน เพื่อใช้เขียนบทความให้กับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณกัน โดยวิธีการหาของเราเป็นการใช้ Tools ฟรีทั้งหมด สบายใจได้เลย โดยในเคสนี้ก็จะยกตัวอย่างเว็บไซต์เดียวกับที่เราเคยเขียนเอาไว้ใน บทความ ทำยังไงถึงจะเป็นนักเขียนที่รวย

เว็บไซต์ นักบาสสามแต้ม.co

โดยเว็บไซต์ของเรามี Seeding Keywords หรือ Niche คือ บาสเกตบอล

คีย์เวิร์ดบาสเกตบอล
คีย์เวิร์ดบาสเกตบอล

จะเห็นได้ว่า เมื่อเราใช้ Ubersuggest จะเจอว่ามีคนค้นหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ถึง 40,500 ครั้งต่อเดือน แต่เราแทบจะแข่งขันไม่ได้เลย ทีนี้ต้องทำยังไงต่อ

ใช้ Google ช่วยหา คีย์เวิร์ด

ใช่ครับเราสามารถใช้ Google เข้ามาช่วยหาคีย์เวิร์ดตรงๆเลยก็ได้ โดยจะมีทั้งส่วนที่เป็น Google Suggestion กับ Relate Keywords

Google Suggestion Keywords
Google Suggestion Keywords
Google Relate Keywords
Google Relate Keywords

โดยจาก Suggestion ทั้งหมด ให้เราลองดูครับว่าเราจะเอาคีย์เวิร์ดไหนมาใช้ โดยดูว่าจะตอบธุรกิจเราในส่วนไหน อย่าง นักบาสสามแต้ม.co ขอยกตัวอย่างจาก 3  คีย์เวิร์ด ในการนำไปใช้นะครับ

  • วิธีเล่นบาสเกตบอล – คีย์เวิร์ดนี้จะไปใช้เขียนบทความอธิบายวิธีการเล่น เพื่อตอบกลุ่มคนที่สนใจการเล่นบาสเกตบอล อาจจะไม่ใช่คีย์เวิร์ดทำเงินโดยตรง แต่จำเป็นครับ
  • ประวัติบาสเกตบอลในประเทศไทย – คีย์เวิร์ดนี้คนที่จะค้นหาเข้ามา น่าจะเป็นการหาข้อมูลเพื่อเอาไปทำรายงาน หรืออะไรที่มัน information มากๆ อาจจะไม่ใช่คีย์เวิร์ดที่เกิดรายได้นะครับ ตัดทิ้งก็ได้
  • อุปกรณ์บาสเกตบอล – คำนี้คือเริ่มสงสัยแล้ว ว่าจะเล่นบาส ต้องมีอุปกรณ์อะไร คำนี้จำเป็นต้องทำ และจำเป็นต้องสืบค้นต่อ เพื่อหา โปรดักที่เกี่ยวข้อง จะทำให้เราได้ long tail keywords มาเยอะๆ และเอาไปใช้ทำบทความทำเงินได้

วิเคราะห์ Keywords ด้วย Ubersuggest

ทีนี้เมื่อเราหาคีย์เวิร์ดเสร็จแล้ว ให้เอากลับไปเข้าโปรแกรม ubersuggest ช่วยวิเคราะห์ต่อครับ

คีย์เวิร์ด อุปกรณ์ บาสเกตบอล
คีย์เวิร์ด อุปกรณ์ บาสเกตบอล

ก็จะเห็นว่าคีย์เวิร์ดนี้มีคนค้นหา 390 ครั้งต่อเดือน โดยความยากอยู่ที่ 34 และมี ความยากของ paid ads (หรือ google adwords นั่นเอง) อยู่ที่ 52 ซึ่งกำลังแข่งกันเข้มข้นเลยทีเดียว ก็แปลว่าคำนี้น่าสนใจสำหรับการนำไปใช้ครับ อย่าลืมเช็คดูคำแนะนำ คีย์เวิร์ดจาก Uber Suggest ด้วย เพราะอาจจะมีคำดีๆ ซ่อนอยู่

คีย์เวิร์ดอุปกรณ์บาสเกตบอล relate keywords
คีย์เวิร์ดอุปกรณ์บาสเกตบอล relate keywords

Magic Number สำหรับ Ubersuggest

แน่นอนว่าแต่ละ Tools ที่เป็นค้นหา SEO จะมีสูตรในการหาคีย์เวิร์ดทำเงิน และแต่ละคนที่เป็นคนทำ SEO ก็มีสูตรของตัวเอง Richwriter จึงขอเสนอสูตรของตัวเองบ้าง ที่ได้นำไปใช้จริง และคิดว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ยากมากนัก ที่จะทำอันดับบน Google ภายใน 1 – 6 เดือนแรก

  • Keyword จะต้องประกอบด้วยคำมากกว่า 2 คำ ผสมกันขึ้นไป เช่น “อุปกรณ์ บาสเกตบอล” หรือ “รองเท้า บาสเกตบอล ราคาถูก”
  • Search Volume ต้องมากกว่า 10 และน้อยกว่า 1,000 ตัวเลขประมาณนี้น่าจะยังพอมีคนที่ยังไม่ได้ทำ หรือเราสามารถทำบทความคุณภาพไปสู้ได้แน่นอน
  • SEO Difficulty 0 – 50 เป็นตัวเลขที่ไม่ยากเกินไปที่จะแข่ง แต่ว่ายิ่งน้อยยิ่งดีครับ แปลว่ายังไม่มีคนทำ SEO คำนี้ตรงๆเข้ามาแข่งกับเรา
  • Paid Difficulty 30 – 100 ค่านี้ยิ่งสูงแปลว่ายิ่งมีคนลงโฆษณาเยอะ ในฐานะคนที่ไม่ได้ลงโฆษณาเพื่อโปรโมท ตั้งใจจะทำ SEO สู้อยู่แล้ว แปลว่ามันยิ่งเยอะก็ยิ่งสนุกครับ
  • CPC 10 บาทขึ้นไป ยิ่งแพงยิ่งต้องรีบทำ เพราะว่าหากเราเป็นเว็บบทความ หารายได้จาก adsense ค่านี้คือการประเมิณราคาประมูลโฆษณาในตลาด ถ้ามันแพง ต้องรีบเลยครับ นี่แหละคือที่มาของคำว่า คีย์เวิร์ดทำเงิน

นี่คือ Magic Number ของ Richwriter ที่เราทดลองทำมาทั้งตลาดไทย และภาษาอังกฤษ ว่าอยู่ใน Range นี้สู้ได้แน่นอน

การนำไปใช้ทั้งการเขียนคอนเทนต์ และทำวิดีโอบน YouTube

ในแง่ของการนำไปใช้ คุณสามารถนำคีย์เวิร์ดไปประยุกต์ใช้ได้กับทั้ง การเขียนบทความ และการทำ YouTube เพื่อหารายได้เลย โดย YouTube อาจจะใช้แค่คำที่มีความยาวประมาณ 2 คำพอ เพราะการแข่งขันยังไม่สูงมากเท่ากับบน Google และคนใน YouTube มักจะสนใจเสพอะไรสั้นๆ ย่อยง่ายกว่ามาก นี่คือวิธีการนำไปใช้บางส่วน

  • เขียนบทความโดยตรง – คุณสามารถนำ Keywords ที่เตรียมมาอย่างดีแล้ว เขียนบทความโดยตรง เพื่อตอบความต้องการ การค้นหาของกลุ่มเป้าหมายได้เลย โดยอาจจะมีการเชื่อมโยงกับส่วนอื่นๆในหน้าเว็บของคุณ เพื่อทำให้คนที่เข้ามายังเว็บไซต์คุณแล้ว อยู่นานขึ้น
  • เพิ่มเข้าไปในส่วนหนึ่งของบทความเดิม หรือสินค้า – ในกรณีที่มีบทความใกล้เคียงอยู่แล้ว หรือมีสินค้านั้นอยู่แล้ว ให้นำคีย์เวิร์ดนี้ไประบุเพิ่มเติมในส่วนหนึ่งของ Title หรือ Description เพื่อทำให้ทำอันดับกับคีย์เวิร์ดนี้ได้

หรือหากอยากรู้วิธีหาคีย์เวิร์ดมาทำ YouTube แบบละเอียด ต้องอ่าน

Pro Tips ความลับที่คุณอาจยังไม่รู้

เจอคีย์เวิร์ดดีๆ เป็นหมื่นคำเลย งี้ต้องทำหมื่นบทความเลยหรือเปล่าครับ? อาจจะเป็นคำถามที่อยู่ในหัวคุณได้ หลังจากค้นหาคีย์เวิร์ดมาสักพัก แต่เราก็ต้องบอกเลยว่า ไม่จำเป็น เพราะมันเหนื่อยมากนั่นเอง ที่จริงแล้ว หนึ่งหน้าเว็บเพจ สามารถทำอันดับได้เป็นหมื่นคีย์เวิร์ดเลยเหมือนกัน เคสนี้เคยเห็นในเว็บไซต์นึงของทางต่างประเทศที่ไม่ว่าคุณจะค้นหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณก็จะเจอแต่เว็บเขา เพราะว่าเขาทำ SEO เก่งมาก มีการนำคีย์เวิร์ดที่หามา ไปปรับแต่งส่วนต่างๆ ของหน้าเพจแบบไม่ใช่การสแปม รวมไปถึงเว็บไซต์ของเขาทั้งหมดก็ทำมาดี มีการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน เข้าหากันอย่างเป็นระบบ และใช้งานง่าย จึงทำให้สามารถทำอันดับได้เยอะเป็นพิเศษ

ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นแล้ว ที่จะต้องทำบทความเยอะ ๆ จำนวนมากลงไปในเว็บ แต่การทำหน้าๆนึง บทความนึง ให้มีคุณภาพมากที่สุดต่างหาก คือหัวใจของการทำอันดับบน Google ในปี 2019 นี้

IncomeSpire.com

IncomeSpire.com คือการรวมตัวของกลุ่มคนที่เชื่อว่า ความมั่งคั่ง สามารถสร้างได้จริง โดยชื่อเว็บไซต์ของเรามาจากคำว่า Income ซึ่งแปลว่า รายรับหรือเงินได้ ผสมกับคำว่า Inspire ที่แปลว่า แรงบันดาลใจ เมื่อรวมกันแล้วจึงทำให้เป็นคำที่มีความหมายที่พวกเราคิดเอาเองว่า "สร้างแรงบันดาลใจให้การสร้างรายได้"

บทความก่อนหน้า